วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ขุนช้างขุนแผน ตอนขุนช้างถวายฎีกา

เนื้อเรื่องย่อ
                                    กล่าวถึงพลายงาม  เมื่อชนะคดีความขุนช้างแล้ว ขุนช้างได้พานางวันทองกลับไปอยู่สุพรรณบุรี  ส่วนตัวพลายงามเองก็กลับไปอยู่บ้านพร้อมหน้าญาติและพ่อ  ขาดก็แต่แม่ ทำให้พลายงามเกิดความคิดที่จะพานางวันทองกลับมาอยู่ด้วยกัน  จะได้พร้อมหน้าพ่อ แม่ ลูก  พอตกดึกจึงไปลอบขึ้นเรือนขุนช้างแล้วพานางวันทองหนีมาอยู่ที่บ้านกับตน ตอนแรกนางก็ไม่ยินยอมที่จะมา เพราะกลัวจะเป็นเรื่องให้อับอายว่า  คนนั้นลากไปคนนี้ลากมาอีกและเกรงจะมีปัญหาตามมาภายหลัง จึงบอกให้พลายงามนำความไปปรึกษาขุนแผน  เพื่อฟ้องร้องขุนช้างดีกว่าจะมาลักพาตัวไปแต่พลายงามไม่ยอม สุดท้ายนางวันทองจึงจำต้องยอมไปกับพลายงาม
                                    ฝ่ายขุนช้างนอนฝันร้ายก็ผวาตื่นเอาตอนสาย  ครั้นตื่นขึ้นมาก็ร้องเรียกหานางวันทอง ออกมาถามบ่าวไพร่ก็ไม่มีใครเห็นจึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟมุ่งมั่นจะตามนางวันทองกลับมาให้ได้ ฝ่ายพลายงามก็เกรงว่าขุนช้างจะเอาผิด  ถ้ารู้ว่าตนไปพานางวันทองมา  จะเพ็ดทูลสมเด็จพระพันวษาอีก  แม่อาจจะต้องโทษได้ จึงใช้ให้หมื่นวิเศษผลไปบอกขุนช้างว่า ตนนั้นป่วยหนักอยากเห็นหน้าแม่  จึงใช้ให้คนไปตามนางวันทองมาเมื่อกลางดึก ขอให้แม่อยู่กับตนสักพักหนึ่งแล้วจะส่งตัวกลับมาอยู่กับขุนช้างตามเดิม ขุนช้างโมโหและแค้นยิ่งนักที่พลายงามทำเหมือนข่มเหงไม่เกรงใจตน จึงร่างคำร้องถวายฎีกาแล้วลอยคอมายังเรือพระที่นั่งของสมเด็จพระพันวษาเพื่อถวายฎีกา ทำให้สมเด็จพระพันวษาพิโรธมาก  ให้ทหารรับคำฟ้องมาแล้วให้เฆี่ยนขุนช้าง ๓๐ ทีแล้วปล่อยไป และยังทรงตั้งกฤษฎีกาการรักษาความปลอดภัยว่า  ต่อไปข้าราชการผู้ใดที่มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้วปล่อยให้ใครเข้ามาโดยมิได้รับอนุญาตจะมีโทษมหันต์ถึงประหารชีวิต
              กล่าวฝ่ายขุนแผนนอนอยูในเรือนกับนางแก้วกิริยาและนางลาวทองอย่างมีความสุข  ครั้นสองนางหลับ  ขุนแผนก็คิดถึงนางวันทองที่พลายงามไปนำตัวมาไว้ที่บ้าน  จึงออกจากห้องย่องไปหานางวันทองหวังจะร่วมหลับนอนกัน  แต่นางปฏิเสธแล้วพากันหลับไป  แต่พอตกตึกนางวันทองก็เกิดฝันร้ายตกใจตื่นเล่าความฝันให้ขุนแผนฟัง ขุนแผนฟังความฝันของนางก็รู้ทันทีว่าเป็นเรื่องร้าย  อันตรายถึงชีวิตแน่นอน แต่ก็แกล้งทำนายไปในทางดีเสียเพื่อนางจะได้สบายใจ 
              ฝ่ายสมเด็จพระพันวษา ครั้นทรงอ่านคำฟ้องของขุนช้างก็ทรงกริ้วยิ่งนัก  ให้ทหารไปตามตัวนางวันทอง ขุนแผนและพระไวยมาเฝ้าทันทีขุนแผนเกรงว่านางวันทองจะมีภัย  จึงเสกคาถาและขี้ผึ้งให้นางวันทองทาปากเพื่อให้พระพันวษาเมตตา  แล้วจึงพานางเข้าเฝ้า  เมื่อพระพันวษาเห็นนางวันทองก็ใจอ่อนเอ็นดู  ตรัสถามเรื่องราวที่เป็นมาจากนางวันทองว่า  ตอนชนะคดีให้ไปอยู่กับขุนแผนแล้วทำไมจึงไปอยู่กับขุนช้างนางวันทองก็กราบทูลด้วยความกลัวไปตามจริงว่า ขุนแผนถูกจองจำ  ขุนช้างเอาพระโองการไปอ้างให้ฉุดนางไปอยู่ด้วย  เพื่อนบ้านเห็นเหตุการณ์ก็ไม่กล้าเข้าช่วยเพราะกลัว                        ผิดพระโองการ สมเด็จพระพันวษาฟังความทรงกริ้วขุนช้างมาก ทรงถามนางวันทองอีกว่าขุนช้างไปฉุดให้อยู่ด้วยกันมาตั้ง ๑๘ ปี แล้วคราวนี้หนีมาหรือมีใครไปรับมาอยู่กับขุนแผน  นางวันทองก็กราบทูลไปตามจริงว่า  พระไวยเป็นผู้ไปรับมาเวลาสองยาม ขุนช้างจึงหาความว่า หลบหนี  สมเด็จพระพันวษาทรงกริ้วพระไวยที่ทำอะไรตามใจตน นึกจะขึ้นบ้านใครก็ขึ้น  ทำเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป และว่าขุนแผนรู้เห็นเป็นใจ  
              สมเด็จพระพันวษาทรงคิดว่า สาเหตุของความวุ่นวายทั้งหมดนี้เกิดจากนางวันทองจึงให้นางวันทองตัดสินใจว่าจะอยู่กับใคร  นางวันทองตกใจ ประหม่า อีกทั้งจะหมดอายุขัยจึงบันดาลให้พูดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าจะอยู่กับใคร  นางให้เหตุผลว่า นางรักขุนแผน  แต่ขุนช้างก็ดีกับนาง ส่วนพลายงามก็เป็นลูกรัก ทำให้สมเด็จพระพันวษากริ้วมาก  เห็นว่านางวันทองเป็นคนหลายใจ เป็นหญิงแพศยา จึงให้ประหารชีวิตนางวันทองเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง

PowerPoint ขุนช้างขุนแผน ตอนขุนช้างถวายฎีกา
https://drive.google.com/open?id=0B1sjjZtQeYlAaU01ejlXVnlaMTQ

การขับเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนขุนช้างถวายฎีกา

ขุนช้างขุนแผน ฉบับหอสมุดพระวชิรญาณ












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น